Blue House Website|Blue House Website

วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

สารทเดือนสิบ


ประเพณีสารทเดือนสิบหรืองานบุญเดือนสิบ เป็นงานบุญประเพณีของคนภาคใต้ของประเทศไทย โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชนและญาติที่ล่วงลับ

วันสารท เป็นวันที่ถือเป็นคติ และเชื่อสืบกันมาว่าญาติที่ล่วงลับไปแล้ว จะมีโอกาสได้กลับมารับส่วนบุญจากญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นจึงมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติในวันนี้ และเชื่อว่าหากทำบุญในวันนี้ไปให้ญาติแล้ว ญาติจะได้รับส่วนบุญได้เต็มที่ และมีโอกาสหมดหนี้กรรมและได้ไปเกิดหรือมีความสุข

ช่วงระยะเวลาในการประกอบพิธีกรรมของประเพณีสารทเดือนสิบ จะมีขึ้นในวันแรม1ค่ำ ถึงแรม15ค่ำ เดือนสิบของทุกปี แต่สำหรับวันที่ชาวใต้มักนิยมทำบุญกันมาก คือ วันแรม 13-15ค่ำ ประเพณีวันสารทเดือนสิบโดยส่วนใหญ่แล้ว จะตรงกับเดือนกันยายน

ขนมงานบุญเดือนสิบ

ขนมที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของงานสารทเดือนสิบ ได้แก่

1.ขนมพอง เป็นสัญลักษณ์แทน เรือ แพ ที่บรรพบุรุษใช้ข้ามห้วงมหรรณพ เหตุเพราะขนมพองนั้น แผ่ดังแพ มีน้ำหนักเบา ย่อมลอยน้ำและขี่ข้ามได้

2.ขนมลา เป็นสัญลักษณ์แทน แพรพรรณ เครื่องนุ่งห่ม เหตุเพราะขนมลามีรูปทรงดั่งผ้าถักทอ พับ แผ่ เป็นผืนได้

3.ขนมบ้า เป็นสัญลักษณ์แทน ลูกสะบ้า สำหรับใช้เล่นต้อนรับสงกรานต์ การเล่นที่นิยมในสมัยก่อน

4.ขนมดีซำ เป็นสัญลักษณ์แทน เงินเบี้ยสำหรับใช้สอย เหตุเพราะรูปทรงของขนมคล้ายเบี้ยหอย

5.ขนมกง(ไข่ปลา) เป็นสัญลักษณ์แทนเครื่องประดับ เหตุเพราะรูปทรงมีลักษณะคล้ายกำไลแหวน

หนีพ้นไฟร้อนแห่งโทสะด้วยสติ


หนีพ้นไฟร้อนแห่งโทสะด้วยสติ

คนทุกคนชอบเย็นไม่มีใครชอบร้อน แต่ไม่ทุกคนที่รู้จริงว่า
ความเย็นเกิดแต่เมตตาจริงๆ และความร้อนเกิดจากโทสะจิงๆ
จะให้รู้ได้ด้วยตนเองจริงๆเพื่อหนีพ้นความร้อนได้มีวามเย็น
ก็ต้องใช้สติเป็นที่ตั้ง คนที่มีเรื่องทะเลาะกันไม่มีความยับยั้ง
ชั่งใจ มีความโกรธเข้าครอบงำเพราะมีไฟร้อนแห่งโทสะ ทำ
ให้ขาดสติ
เมื่อมีความโกรธคือไฟร้อนแห่งโทสะเกิด ให้รู้ว่าตัวเองกำลัง
โกรธแล้ว ขณะเดียวกันให้สังเกตุว่า จิตใจหน้าตาเนื้อตัวร้อนผิกปกติ
หรือไม่ จะรู้สึกได้ว่าจิตใจเนื้อตัว เวลาโกรธจะร้อนผิดปกติ นั่นเป็นเครื่อง
ยืนยันว่า โทสะให้ความร้อนและเป็นความร้อนที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่
ความร้อนทีนำมาใช้หุงหาอาหารได้ โทสะจึงให้แต่โทษ ไฟยังดีกว่าโทสะ
เพราะไฟให้คือใช้ทำประโยชน์ได้ โทสะมีแต่ให้โทษพึงระลึกถึงข้อนี้ไว้
จะเป็นคุณต่อไป เพราะเวลาโกรธหรือมีโทสะ ให้ความคุมสติให้อยู่
ถ้าเราขาดสะติผลเสียตะตามมา

ความร้อนเกิดแก่..โทสะ
ระงับความร้อนที่เกิดจาก..โทสะ
ด้วยความเย็นที่เกิดแต่..เมตตา
เราก็จะหนีพ้นโทสะ..ด้วยสติ

โทสะ..ทำให้จิตใจร้อนรุ่ม
เนื้อตัว..รุ่มร้อนดั่งไฟเผาไหม้
ไฟโทสะ..ไม่ให้ประโยชน์อะไร
ใยมนุษย์..จึงมีโทสะในตัว

จาก....ปลาซิว



วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

ทำดีที่สุดในแบบที่เราเป็น


ทำดีที่สุดในแบบที่เราเป็น

เราไม่สามารถกะเกณฑ์อะไรได้กับเรื่องความรัก เพราะคนสองคน
มาจากความแตกต่างกัน จะคาดหวังอะไรมากมายไม่ได้ ถ้าเรามีความรัก
ให้กันเพียงแค่ "ทำดีที่สุดในแบบที่เราเป็น"ขอให้เราเป็นตัวของตัวเอง
แต่ก็ควรจะรู้ด้วยว่าคนรักเราชอบแบบไหนด้วย อย่าเฝ้าติดตามเขาไปทุกๆที่
เพราะบางครั้งเขาก็ต้องการความเป็นส่วนบ้างเหมือนกัน

..
ทำให้ดีที่สุดในแบบที่เราเป็น
ให้เขาเห็นคุณค่าในตัวเรา
อย่าเฝ้าติดตามเขาทุกที่
เพราะรักนั้นมีวันหมดอายุได้
..
อย่ากะเกณฑ์ในเรื่องของความรัก
เพราะรักนั้นเป็นชะตาฟ้าลิขิต
ให้ชีวิตคนสองคนต้องมารัก
ประสพพบรักกัน

จาก...ปลาซิว

ต้องการรัก


ต้องการรัก

เป็นธรรมชาติของคนเราที่ต้องการมีรัก ถ้าเราต้องการให้คนอื่นมารัก
เราก็ควรทำตัวให้ควรค่าแก่การรัก อย่าไปเรียกร้องความรักจากเขามาก
ถ้าเรียกร้องวันที่เขารักเขาก็ให้แบบเต็มที่ ถ้าเรียกร้องมากๆเขาอาจเบื่อได้

...
ความรักไม่ใช่การเรียกร้อง
ถ้าเรียกร้องในวันที่เขารัก
เขาพร้อมภัคที่จะรักเราทุกเมื่อ
ไม่นานนักพอเขาเบื่อ
รักที่เคยเหลือเฟือก็ไม่เหลือให้อีกเลย

จาก....ปลาซิว

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

ขาดรักไม่ได้


คนเราทุกคนล้วนดหยหาความรัก เมื่อรักเก่าผ่านไป

เรามัมองหาความรักครั้งต่อไป แม้จะเจ็บหรือผิดหวัง

เรื่องความรัก แต่ก็ไม่เคยเข็ดเรื่องความรัก เพราะ

หามาทดแทนความรักที่ผ่านมา และทำให้ดีที่สุดขึ้น

ทุกๆครั้ง เพราะทุกคนอยากมีความรัก เพราะคนเรา

ความรัก.. คือ..ความผูกพันธ์และจริงใจ

ความรัก..ไม่ใช่..เพียงความรู้สึก

ความรัก..ไม่ใช่..อารมณ์เพียงชั่วขณะ

ความรัก..ไม่ใช่..การเรียกร้อง

ความรัก..คือ..ความจริงไม่ใช่ความฝัน

เพราะความรักคือความ"ผูกพันธ์"ระหว่าง"คนสองคน"

ที่รักและเข้าใจกัน

จาก..ปลาซิว

รักต้องเอาใจใส่


รักต้องเอาใจใส่

ความรัก เราไม่มีเวลามากรักใครไม่รู้จักพอ

แต่เรามีเวลามากพอที่จะรักใครสักคนให้ได้มากๆ

ความรักคือการเอาใจใส่ ห่วงใยกัน การที่รักร้างลา

ก็คงเพราะไม่"ใส่ใจ" นี่เอง

คนที่รักต้องการ..ความเอาใจใส่

อย่างห่วงใย..ดุแลกันและกัน

ถ้ารักแล้ว..ไม่ห่วงใยไม่ดูแล

รักจบแน่..ตรงคำว่า"ร้างลากัน"

จาก...ปลาซิว

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

เรื่องธรรมดาของความรัก


ความรักเป็นเรื่องธรรมดา ต้องมีสมหวังและผิดหวังบ้าง
เวลาเรารักใครสักคน ความรู้สึกเหล่านี้มันสามารถเปลี่ยน
แปลงได้เมื่อเขาเปลี่ยน เราก็ควรมองว่ามันเรื่องธรรมดา
ทุกคนมีสิทธิ์เลือก เราไม่มีสิทธิ์ ไปยื้อยุดให้เขาเป็นอย่าง
ที่เราต้องการได้

โลกนี้ยังมีคนรอ..ให้เรารัก
ถึงอกหักให้คิดว่า..เป็นธรรมดา
เขาเป็นคนมีชีวิต..เราไม่มีสิทธิ์
จะไปห้าม..ความคิดของเขาได้
สิทธิ์ของเรา..มีเพียงความคิดถึง
อย่ายื้อยุดฉุดดึง..เขานั้นไว้
กายเขาอยู่..ใจไม่อยู่ได้อะไร
ปล่อยเขาไป..จะเก็บไว้ให้เราศร้าอีกทำไม

จาก..ปลาซิว

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

ความขยันอดทน


คนทุกคนมีความพยายาม มีความอดทน ถ้ามีความ
พยายาม และขยันอดทนเราก็ไปสู่จุดหมายที่เราวางไว้
และการทำงานก็ช่วยเหลือกกันและกันมีความสมามัคคี
งานจึงจะสำเร็จ

สูงเพียงใด...ความตั้งใจ..ย่อมไปถึง
คนขี้เกียจจึง..คอยพึงพา..จะอาศัย
ก้าวสู่ที่สูงกว่า..ด้วยสองขา..มุ่งหน้าไป
ทุกก้าวใกล้หรือไกล..ภูมิใจล้น..ผลงานเรา
จงขยัน..เหมือน..ดั่งมด
ตัวบาง..ร่างเล็ก..ไม่ย่อท้อ
แรงพอ..ทำงาน..ใหญ่ไหว
มดตัวเล็ก..ทั้งขยัน..ทันใจ
มองกาลไกล..เก็บอาหาร..กินนานวัน
รวมกันอยู่..อย่าแยก..แบ่งกัน
ร่วมแรง..สร้างงาน..เฉิดฉัน
เกิดเป็นคน..อย่ายอม..แพ้กัน
จงขยัน..เหมือนกับมด..ไม่อดตาย

จาก..ปลาซิว

ทุกชีวิตมีความตายเป็นเบื่องหน้า



ทุกชีวิตมีความตายเป็นเบื้องหน้า ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ทั้งคนพาล
ทั้งบัณฑิต ล้วนหนี้ไม่พ้นความตาย ไม่มีสักคนหนีความตายพ้น
ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่า ทุกคนเกิดมา
แล้วต้องตาย มาจากดินก็กลับสู่ดิน เพราะฉะนั้นก็ควรจะนึกถึง
ความเป็นจริงบ้าง พวกทีคดโกง โลภมากอยากได้ของคนอื่น
เมื่อตายไปแล้วก็เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้ แม้แต่เงินที่เขาใส่ปากเขา
ยังเก็บเอาคืน ให้นึกถึงความเป็นจริงข้อนี้ เพราะความเป็นจริง
ตอนเราเกิดมา เราก็มาตัวเปล่าๆแม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่มี พอเราตายไป
ทรัพย์สินเงินทองที่เราหาไว้ เราก็ขนไปด้วยไม่ได้ เราก็ไปตัวเปล่า
เหมือนเรามา ยังดีที่เขายังมีเสื้อผ้าใส่ให้ไปด้วย เพราะฉะนั้นจงทำดี
ต่อกันขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ มั่นสร้างความดีเพราะความดีไม่ได้ตาย
ไปพร้อมกับเรา..

เมื่อเกิดมา..มีอะไร..มากับตัว
ใยเมามัว..โลภมาก..ทำบาปใหญ่
มาตัวเปล่า..แล้วจะเฝ้า..เอาอะไร
เราก็ไป..ตัวเปลา..เหมือนเรามา

จาก...ปลาซิว

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

รักเขารักแบบไหน


ก่อนจะรักใครอย่าผลุนผลัน ทำอย่างไรก็ได้
อย่าให้เกิดผลเสียกับคนรอบข้างและตัวเอง
เอาความดีของความรัก มาเป็นกำลังใจให้กับชีวิต
การรักเขารักแบบไหนที่เราต้องเจ็บน้อยที่สุด

รักเขาอย่ารัก..จนเต็มร้อย
รักเขาอย่ารัก..หมดทั้งตัว
รักเขาอย่ารัก..จนงมงาย
รักเขาอย่ารัก..แบบยัดเยียด
รักเขาอย่าเอา..แต่ความรู้สึกตัดสิน
รักเขาอย่าอย่าคาดหวัง..ว่าเขาจะรักเราเท่าที่เรารักเขา

ผลสุดท้ายถ้าเขา"ไม่รัก" คนที่เจ็บหนักคือ"ตัวเรา"

จาก:ปลาซิว

เมื่อมีรักก็ต้องมีจาก


เวลาเรารักใคร เราจะเป็นฝ่ายเข้าหาเขา
เลือกที่จะรักเขาเอง ถ้าเรารักเป็น เราก็
ต้องรู้จักเสียใจให้เป็นด้วย เพราะเมื่อรัก
ก็ต้องมีพลัดพราก ไม่ลาจากก็ต้องตายจากกัน
ต้นไม้อายุ 500 ปียังตายได้ นับประสาอะไร
กับคน รักกันมา 20 ปีก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
จิตใจคนมันไม่แน่นอน

เมื่อมีรักก็ต้องมี..การพลัดพราก
ไม่ได้ลาจาก..ก็ตายจากกัน
ต้นไม้ใหญ่ยังสามารถ..ล้มตายได้
เอาอะไรกับชีวิตคน..ที่ดิ้นล้นอยู่ทุกวัน

จาก:ปลาซิว

ถนอมรัก



คนเรารักกัน ต้องถนุถนอมความรักของตัวเองให้ดีที่สุด
ประครองรักให้ยาวนานที่สุด เอาใจใส่ดูแล ซึ่งกันและกัน
การมีรักก็เปรียบเหมือนการปลูกต้นไม้ ถ้าไม่รดน้ำใส่ปุ๋ย
ต้นไม้มันก็ตาย

เมื่อมีรักก็ต้องถนอม..รักนั้นไว้
เอาใจใส่ดูแล..กันและกัน
การมีรักเปรียบเหมือนดั่ง..ปลูกต้นไม้
ต้องใส่ปุ๋ยรดน้ำ..และพรวนดิน
รักจะจบสิ้นถ้าเรานั้น..ไม่ใส่ใจ

จาก:ปลาซิว

ความเข้าใจ


ความรัก คือความสำคัญ แต่ที่สำคัญไม่แพ้กัน
คือ"ความเข้าใจ" บางคนมีความรักแบบล้นหลาม
แต่ขาดความเข้าใจการทะเลาะกันก็ตามมาไม่สิ้นสุด
คนที่อยู่กันมานาน ไม่แน่ความรักอาจหมดไปแล้วก็ได้
แต่ความเป็นเพื่อนยังมีอยู่ บางครั้งความเข้าใจอาจ
สำคัญกว่าความรักด้วยซ้ำไป

บางคนมีรักมาก..แต่ขาดความเข้าใจ
ปัญหาที่ตามมา..คือการทะเลาะไม่สิ้นสุด
บางคนอยู่กันมานาน..ความรักอาจหมดไป
แต่ความเข้าใจกัน..ก็ยังมี.~~

จาก:ปลาซิว

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มะนาว

เมื่อวันก่อนไปซื้อมะนาวที่ตลาดใกล้บ้านเพราะมีความจำเป็นต้องใช้
คนขายขายแพงมากๆมะนาวลูกละสี่บาทแต่จำเป็นต้องเอา

ที่บ้านผมต่างจังหวัดให้กันฟรีๆไม่คิดตังค์
วันนี้ตอนเย็นๆก็เลยไปที่ตลาดบางกะปิ
เพราะจำได้ว่าที่ตลาดบางกระปิตอนเย็นๆผักผลไม้จะขายถูกมากๆ..ได้ซื้อมะนาวมากระจาดหนึ่งประมาณยี่สิบกว่าลูก ขายแค่สิบบาท
ถูกกว่าตั้งหลายเท่า
ก็เลยซื้อมาใส่ตู้เย็นไว้เฉยๆประชดที่เคยไปซื้อมะนาวแพง
นั่งคิดไปคิดมา.....ทำให้นึกถึงวิธีการทำมะนาวดอง

วิธีการทำมะนาวดอง
ต้องเป็นมะนาวที่แก่จัดผิวดีไม่เหลือ
เอามาล้างให้สะอาดแล้ววางไว้ให้แห้ง
แล้วเอามาเรียงภายในขวดหรือภาชนะที่เตรียมไว้
คงจะได้ประมาณสิบผลเมื่อเรียงในขวดโหล
ต้มน้ำเกลือให้เดือดแล้วเทลงไปในขวดที่มีมะนาว
อัตราส่วนเกลือหนึ่งถ้วยต่อน้ำสามถ้วย
ต้องเป็นเกลือเม็ดเท่านั้น
เมื่อเทน้ำต้มเกลือที่เดือดลงในขวดให้ปิดฝาให้ดี
รอไว้ประมาณสิบวันแล้วเทน้ำเกลือออกทิ้ง
แล้วเอามะนาวที่ขวดไปตากแดดให้ได้รับแสงแดด
เมื่อแห้งดีแล้วก็นำมาเรียงใส่ในขวดโหลไว้เหมือนเดิม
ทำน้ำเกลือสูตรเดิม
ทำแบบเดิม..คือต้มให้เดือดแล้วเทลงในขวด
ปิดฝาขวดให้ดีให้แน่น เก็บไว้ทานได้เป็นปีๆ
แต่ต้องดองไว้ให้ครบสามเดือดก่อนถึงจะเอาออกมารับประทานได้...

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ดอกมะลิ


ถ้าพูดถึงดอกมะลิ
หลายๆคนคงจะนึกถึงวันแม่
เพราะดอกมะลิเป็นสัญญาลักษณ์ของวันแม่
เมื่อถึงวันแม่ของทุกๆปี(12สิงหาคม ของทุกปี)
หลายๆคนก็จะเอาดอกมะลิไปให้แม่ที่รักและเคารพ

คนสมัยก่อนชอบที่จะเอาดอกมะลิมาลอยในน้ำดื่ม
ซึ่งจะทำให้ได้กลิ่นหอมของดอกมะลิขณะที่ดื่มน้ำ
นอกจากนี้ดอกมะลิยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย...
คือ ราก และใบ นำมาตำแล้วผสมกับเหล้า นำมาพอกบริเวณที่ปวด เช่น ปวดข้อต่างๆ ปวดหัว และยังช่วยรักษาสุขภาพช่องปากด้วย โดยนำรากที่ตำละเอียดแล้วมาอุดฟันที่ปวด

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เสียงบ่นชาวนา


..."เมื่อก่อนใช้แรงกาย ปัจจุบันใช้เครื่องจักร
เมื่อก่อนใช้ควายไถนา ปัจจุบันใช้รถไถนา
เมื่อก่อนขี่ควาย ปัจจุบันขับรถยนต์
เมื่อก่อนนั่งเกวียน ปัจจุบันนั่งรถยนต์ความเร็วสูง
เมื่อก่อนใช้โทรเลข ปัจจุบันใช้โทรศัพท์มือถือ
เมื่อก่อนใช้จดหมาย ปัจจุบันใช้ อี-เมล์
เมื่อก่อนทีวีขาวดำ ปัจจุบันทีวีสีผ่านจานดาวเทียม
เมื่อก่อนไม่รู้หนังสือ ปัจจุบันจบปริญญามากมาย

ไม่มีการขายเสียง......
มีแต่นักการเมื่องสอบตกเพราะคิดว่าซื้อเสียงได้(5555555+)
กาลเวลาเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน คน(ชาวนา)เปลี่ยน
แต่นักการเมืองบางคนบางกลุ่มไม่ยอมเปลี่ยน
ชอบทำเรื่องไม่เป็นเรื่องให้เป็นเรื่อง ถ่วงความเจริญจริงๆ
...................."

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ความเหมือนที่แตกต่าง


เรื่องนี้ผมไม่มีเจตนาจะเขียนกระทบใคร

แต่ว่าเป็นเรื่องจริงที่ผมเคยเจอมา.....

ผมเป็นลูกชาวนา และเคยเป็นเด็กเลี้ยงควาย

ก็เลยมีเรื่องเกี่ยวกับควายมาเล่าสู่กันฟัง

สมัยก่อน....นานนนนนนมาแล้ว

สมัยที่ชาวนาไทยใช้ควายไถนาทำนา

จะมีข้อห้ามที่รู้กันและต้องปฏิบัติ

เพราะมันหมายถึงอันตราย หากไม่ปฏิบัติตาม

นั่นก็คือ.....

ห้ามใส่เสื้อผ้าสีแดงหรือสีส้มเข้าใกล้ควายเป็นอันขาด

เพราะถ้าควายมันเห็น มันจะไล่ขวิดไล่ชน!!!!

อันตรายถึงชีวิต!!!!

เป็นเรื่องจริงที่ผมเคยพบเคยเจอมาแล้ว

ปัจจุบัน....ชาวนาจะใส่เสื้อผ้าสีแดงหรือสีส้ม

ก็ไม่ต้องกลัวควายมันไล่ขวิดไล่ชนอีกแล้ว

เพราะควายไม่มี...มีแต่รถไถ

แม้ว่าจะไม่มีควายอีกแล้ว.......

แต่สีแดงก็ใช่ว่าเราจะใส่ไปไหนมาไหนอย่างสบายใจได้

เพราะ.....มีคนบางคนที่เกลียด!!!สีแดง

หากเราใส่สีแดง......

อันตรายก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม

วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ฝันตอนตื่น


ยานค่ำคืน...เมื่อคนเรานอนหลับแล้วมักจะฝัน
ฝันไปต่างๆนานา
บางคนฝันเป็นเรื่องเป็นราวจนสว่าง...
บ้างก็ฝันดี บ้างก็ฝันร้าย

ปกติคนเราจะฝันเวลานอนหลับ
แต่..ถ้าฝันตอนตื่น หรือฝันทั้งๆที่ไม่ได้นอน
เขาเรียกว่า..ฝันกลางวัน
หรือหากฝันนั้นไม่มีวิธีการที่จะนำพาไปสู่ฝันให้เป็นจริงได้
เขาเรียกว่า.."ฝันลมๆแล้งๆ" หรือ "เพ้อฝัน"

ฝันตอนตื่น ต่างจาก ฝันตอนหลับ คือ....
ฝันตอนตื่นเป็นฝันที่เป็นจริงได้
แต่ฝันตอนหลับเป็นจริงได้แค่ในฝัน
ฝันตอนตื่นเรากำหนดได้ว่าจะฝันเล็กหรือฝันใหญ่
แต่ฝันตอนหลับเรากำหนดไม่ได้

ผมนอนหลับไม่ค่อยฝัน
แต่..มักจะฝันตอนตื่น
ฝันว่านั่งทำงานตรงไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ที่พักตากอากาศ หรือจากที่ไหนๆก็ได้บนโลกใบนี้ ขอแค่มีคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เนตได้
ฝันว่าเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีสาขาทั่วประเทศ และมีผลกำไรหรือรายได้ตลอดชีวิตแม้ว่าจะหยุดทำงานแล้วก็ยังมีรายได้ทุกๆวันและทุกๆเดือน ตลอดไป

ฝันของผมเป็นจริงแล้วครับ
แต่ก็ยังอยากที่จะมีเพื่อนมาร่วมฝัน

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

สถานีรถไฟชะอวด


อีกครั้งกับการเดิกทางด้วยรถไฟ
ผมชอบเดินทางด้วยรถไฟ
สนุกและได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
ทำให้เราได้รู้จักและเรียนรู้ชีวิตของผู้คน

จาก..สถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯ
ขณะที่นั่งอยู่บนรถไฟ......
มีหนุ่มวัยกลางคนคนหนึ่ง หน้าตาคุ้นๆ ผมสังเกตเห็นว่าเขาหันมามองผมบ่อยๆ
ผมก็เลยหาโอกาสเข้าไปทักทาย "หวัดดีครับ"
"หวัดดีครับ"เขาทักทายตอบ
"หน้าตาคุ้นๆเราเคยรู้จักกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าครับ"ผมถาม
"พี่เป็นทนายความหรือเปล่า ดูท่าทางเหมือนทนาย"เขาถาม
"เปล่าครับ"
"พี่เคยเรียนที่ คณะนิติฯรามฯหรือเปล่า"
"ไม่ได้เรียนคณะนิติฯครับ แต่เคยไปที่นั่นบ่อยๆ"
..........................................

ถึงสถานีรถไฟชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช เวลาประมาณ 04.20 น.
มีผู้โดยสารลงที่นี่เกือบ 50 คนโดยประมาณ
ในจำนวนนี้มีประมาณ 20 คน(รวมผมด้วย)จะเดินเข้าห้องน้ำที่สถานี
แต่ห้องน้ำล็อค..!!! ไม่เปิดให้บริการ
เออ....ให้มันได้อย่างนี้ซินะ !!!!
นี่มัน...สถานีรถไฟหรือว่าที่ส่วนบุคคลกันนะ?????
ทีสวัสดิการพนักงานการรถไฟ เรียกร้องกันจัง!
เคยคิดถึงหัวอกของประชาชนผู้ใช้บริการกันบ้างไหม๊?

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

วันสงกรานต์


กลับบ้านไปหาแม่
รดน้ำดำหัวอาบน้ำให้แม่เนื่องในวันสงกรานต์
ปีนี้แม่อายุ 96 ปี
แม่....
ให้ชีวิต
ให้การเลี้ยงดู
ให้การศึกษา
ให้ความรัก
ให้ทรัพย์สินเงินทอง

แม่...
สิบสามเมษาวันสงกรานต์
ขอความสุขจงบังเกิดประเสริฐสุข
จงไร้ทุกข์ไร้โศกไร้โรคภัย
ประสพโชคมั่งมีทวีคูณ
เพิ่มพูนสุขสันต์ยิ่งยืนนาน
http://youtu.be/I3oXio4Iv2A

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

เศรษฐกิจพอเพียง


ยุคไข่ชั่งกิโล น้ำมันแพง

บัตรประชาชนใบใหญ่ญญญญญญ..........

คงทำให้หลายๆๆคนนึกถึงเศรษฐกิจพอเพียง

หากพูดถึงความหมายของคำว่า เศรษฐกิจพอเพียง

ก็คงจะได้ความหมายที่แตกต่างกันไป

ตามแต่ว่าใครจะเข้าใจว่าอย่างไร

แต่จะมีสักกี่คน ที่จะรู้ว่า

บนธนาบัตรใบละพัน

หรือ แบงก์พันที่เราใช้กันนั้น

ได้บอกถึงความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงว่า...

เศรษฐกิจพอเพียง....

เศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน

แบบพอมีพอกินนั้น

หมายความว่าอุ้มชูตัวเองได้

ให้มีพอเพียงกับตัวเอง

คนเกิดเดือนมีนาคม

คนเดือมีนาคม

เป็นคนที่ชอบเห็นอกเห็นใจชาวบ้าน ชอบช่วยเหลือคนอื่นแล้วก็ไปรับแบกภาระซะอย่างนั้นแหล่ะ เข้ากับคนง่าย ปรับตัวได้ดีมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีจิตใจที่เมตตาโอบอ้อมอารี มีคุณธรรมสูง ชอบสร้างบุญสร้างกุศล แต่มักเป็นคนที่ขี้เหงา ว้าเหว่ หรือไม่ชอบอยู่ในที่แคบ ๆ มักชอบที่จะอยู่ในที่โล่งแจ้งมากกว่า แต่อารมณ์มักอ่อนไหวง่ายมาก ๆ ในบางครั้งก็ขี้หงุดหงิด จิตใจไม่แน่นอน อารมณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนน้ำ ที่วันนี้ไม่รู้จะอยู่ในโอ่งหรือว่าขวดกันแน่ บางครั้งก็ดูแข็ง

บางทีก็อ่อนไหวง่ายเหลือเกิน ด้วยความใจอ่อนนี่แหล่ะมักทำให้สูญเสียโอกาสดี ๆ ไปเสมอ ดูอ่อนโยนสุภาพแต่ก็มีอารมณ์ที่ก้าวร้าว และปากร้ายได้เหมือนกัน เพราะเป็นคนที่เย็นก็ได้ ร้อนก็ได้ เสียใจง่าย ดีใจง่าย คล้อยตามคนอื่นได้ ไม่ค่อยแข่งขันอะไรกับใคร มักพอใจในสิ่งที่ตนมี เป็นคนที่เชื่อเรื่องโชคลางสิ่งลี้ลับ และชอบที่จะจดจำเรื่องเก่า ๆ หลงรักใครได้ง่าย ๆ และมักจะจมอยู่กับรักเก่า ๆ นั้น แบบพวกมีรักฝังใจไม่ยอมลืม แต่กับบางเรื่อง

กลายเป็นคนที่ขี้ลืมบ่อย ๆ เหมือนคนแก่ และก็เป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจใฝ่หาอะไรที่มันใหม่ ๆ ซะด้วยซิ ยกเว้นชอบที่จะซื้อรองเท้าใหม่ ๆ อยู่เรื่อยเลย ว่ากันว่าใครที่เกิดในเดือนนี้เท้าสวยแล้วจิตใจจะดีแถมเป็นคนชอบชิมชอบกินเสียด้วยซิ ยอมลืม แต่กับบางเรื่อง

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คุณเคยรักใครบ้างหรือเปล่า?


หากพูดถึงเดือนกุมภาพันธ์

เรามักจะนึกถึงวันวันหนึ่งที่คนทั่วโลกให้ความสำคัญ

นั่นก็คือวันแห่งความรัก หรือวัน Valentine

ครับ...เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ

ผมจึงต้องเขียนถึงความรัก

แม้ว่าผมเองจะไม่ประสบความสมหวังกับความรักเท่าไรนัก

ผมมีคำถามของเพื่อนใน Social Network

น่าสนใจมากสำหรับยุคสมัยนี้

เธอถามว่า...คุณเคยรักใครบ้างหรือป่าว ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย ได้เห็นแค่รูปภาพและได้ยินเสียง?

จากคำตอบของคำถามนี้.....(ดูคำตอบได้ที่..

http://www.tagged.com/barwsarkaew )

ทำให้เพื่อนอีกคนที่เข้ามาอ่านแล้วส่งเมล์มาบอกผมว่า...

คำถามและคำตอบนี้โดนใจเธอมาก เพราะว่าตอนนี้ชีวิตเธอกำลังก้าวไปสู่มัน ซึ่งนั่นคือความรักทางอินเตอร์เนต เธอยังตัดสินใจไม่ได้ กล้าๆกลัวๆกลัวว่าหากอกหักอีก แล้วจะทำอย่างไร ซึ่ง ณ เวลานี้ เธอต้องการใครสักคนที่จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในการดำเนินชีวิตมากกว่า...เธอถามว่าเธอเห็นแก่ตัวหรือเปล่า คิดผิดหรือคิดถูก ช่วยชี้แนะด้วย?

ผมตอบไปว่า... ความรักบนโลกของความเป็นจริงกับความรักทางอินเตอร์เนตมันแตกต่างกัน มีการสำรวจออกมาว่าข้อมูลบุคคลที่บอกกันทางเนต เช่น รวย สวย หล่อ ดี เป็นต้น ล้วนแล้วแต่โกหก มีความจริงไม่ถึง 30% อินเตอร์เนตคือโลกของข้อมูลข่าวสารที่ไร้พรมแดน ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทุกคนสามารถเป็นเพื่อนกันได้ ทุกคนสามารถรักกันได้..แต่นั่นมันไม่ใช่โลกของความเป็นจริง โลกของความเป็นจริงต้องประกอบไปด้วยปัจจัยสี่ ศาสนา วัฒนธรรม นิสัยใจคอ บุคลิกท่าทาง รูปร่างหน้าตา การศึกษา สังคมเป็นต้น.....................”

คุณต้องดึงความรักทางอินเตอร์เนตมาสู่โลกของความเป็นจริงให้ได้ก่อน ก่อนที่คุณจะ OK

Blue House Website|Blue House Website